MGI Public Company Limited

ABOUT MGI

ข้อมูลองค์กร

          บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (“MGI”) ดำเนินธุรกิจ “การพาณิชย์ผ่านการสร้างประสบการณ์” (The Experiantial Commerce) โดยดำเนินการจัดการประกวดนางงามมิสแกรนด์ (Miss Grand) เพื่อเสริมสร้างชื่อเสียงให้บริษัทเป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้บริษัทต่อยอดในการดำเนินธุรกิจต่างๆ โดยธุรกิจของบริษัท สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจพาณิชย์ (Commerce) ธุรกิจประกวดนางงามมิสแกรนด์ (Pageant) ธุรกิจสื่อและบันเทิง (Media and X-Periences) และธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน (Talent)

           บริษัทเริ่มต้นธุรกิจโดยนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล และ นายรัชพล จันทรทิม เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2556 ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวนหุ้นรวม 10,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100.00 บาท เพื่อประกอบธุรกิจจัดประกวดนางงามทั้งระดับในประเทศและระดับต่างประเทศ

          บริษัทถือกำเนิดขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เมื่อเริ่มแรกเพื่อดำเนินการจัดการประกวดนางงามระดับนานาชาติที่เป็นเวทีของคนไทย ให้ได้รับความนิยมในระดับสากล สามารถแข่งขันกับเวทีการประกวดระดับนานาชาติกับเวทีอื่นในโลกที่มีอยู่ได้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับและพัฒนา อุตสาหกรรมบันเทิงในรูปแบบของการประกวดนางงาม ที่ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว ความนิยมถดถอยลง ทางบริษัทจึงเล็งเห็นโอกาสในทางธุรกิจที่จะทำให้เวทีการประกวดนางงาม สามารถพลิกฟื้นกลับมาและได้รับความนิยมได้ ในปี 2556 ซึ่งเป็นปีแรกที่จัดตั้ง บริษัทได้ดำเนินการจัดกิจกรรม การประกวดทั้งระดับประเทศในชื่อ มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ (Miss Grand Thailand หรือ MGT) และ ระดับนานาชาติ ในชื่อ มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล (Miss Grand International หรือ MGI) บริษัทเน้นกลยุทธ์การทำให้ “มิสแกรนด์” เป็นที่รู้จักในวงกว้างเพื่อสร้างชื่อเสียง สร้างภาพลักษณ์ให้เป็นที่รู้จักทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ ตามสโลแกนที่ว่า “นับจากนี้ทุกพื้นที่มีแต่แกรนด์” ซึ่งช่วงแรกมีการจัดการประกวดในลักษณะของการคัดเลือกตัวแทนจากส่วนกลางที่บริษัทเป็นผู้บริหารจัดการเอง โดยบริษัทจะทำการคัดเลือกผู้หญิงไทยที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการเป็นนางงามเข้ามาประกวด นอกจากนี้ในปี 2556 บริษัทได้เริ่มต้นเชิญให้ผู้ถือลิขสิทธิ์การประกวดในระดับประเทศ หรือ National Director (ND) เข้ามาร่วมการประกวดระดับนานาชาติ ซึ่งในปีนั้นมี ND เข้าร่วมการประกวดทั้งหมด 88 ประเทศ โดยประเทศไทยเป็นประเทศเจ้าภาพเวทีระดับชาติ คือ MGI ในปีแรก ซึ่งในปีดังกล่าวผู้ชนะเลิศในการประกวด MGT และ MGI ได้แก่ นางสาว ญาดา เทพนม และ Miss Janelee Chaparro จากประเทศเปอร์โตริโก (Puerto Rico) ตามลำดับ และบริษัทเริ่มเก็บค่าลิขสิทธิ์ในการเข้าร่วมประกวดระดับนานาชาติกับ ND ในปี 2557 มาจนถึงปัจจุบัน

         ต่อมาในปี 2559 บริษัทได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการประกวดมิสแกรนด์ ไทยแลนด์ (MGT) เข้าสู่ระบบลิขสิทธิ์ตัวแทน 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย ซึ่งถือเป็นเวทีการประกวดแรกในประเทศไทยที่ดำเนินการจัดการในรูปนี้อย่างเต็มรูปแบบ โดยเมื่อบริษัทเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น บริษัทจึงได้เริ่มต้นขายลิขสิทธิ์การประกวดในระดับประเทศไปยังตัวแทนแต่ละจังหวัด หรือ Provincial Director (PD) โดยการจัดทำสัญญาขายลิขสิทธิ์ให้กับ PD ทั้ง 77 จังหวัด ซึ่งผู้ที่ได้รับลิขสิทธิ์การประกวด (PD) ในแต่ละจังหวัดสามารถใช้ชื่อ ตราสัญลักษณ์เครื่องหมายการค้า ในการประกวดมิสแกรนด์ ไปใช้ในการประกวดมิสแกรนด์ในแต่ละจังหวัดเพื่อคัดสรรหาผู้ชนะเลิศการประกวดมิสแกรนด์ประจำจังหวัดเข้ามาดำเนินการประกวดมิสแกรนด์ ไทยแลนด์ เวทีการประกวดระดับประเทศในแต่ละปีได้เท่านั้น ทั้งนี้ PD จะไม่สามารถใช้ชื่อบริษัท หรือชื่อเวที และตราสัญลักษณ์การประกวดไปใช้หาประโยชน์ส่วนตัว หรือแอบอ้างชื่อบริษัทเพื่อชักนำให้ได้ซึ่งผลประโยชน์อันผิดกฎหมาย หรือกระทำการอื่นใด นอกเหนือจากการจัดการประกวดมิสแกรนด์ในแต่ละจังหวัดตามลิขสิทธิ์ที่ PD ได้รับที่ระบุในสัญญา โดยในสัญญาการขายลิขสิทธิ์ระบุชัดเจนว่า PD เป็นเพียงผู้ได้รับลิขสิทธิ์ในการประกวดมิสแกรนด์ในแต่ละจังหวัดเท่านั้น มิได้เป็นผู้กระทำการใดๆ ในฐานะตัวการตัวแทนของบริษัทแต่อย่างใด
การขายลิขสิทธิ์การประกวดให้ PD เป็นการเริ่มสร้างรายได้จากชื่อเสียงของบริษัทในอีกรูปแบบหนึ่ง ทั้งนี้การประกวดมิสแกรนด์ ไทยแลนด์ในรอบสุดท้ายบริษัทจะเป็นผู้ดำเนินการในการจัดประกวดโดยไม่ได้ขายลิขสิทธิ์ให้กับ PD แต่อย่างใด ยกเว้นการจัดกิจกรรมเก็บตัวที่ให้ตัวแทนมิสแกรนด์แต่ละจังหวัดทั้ง 77 จังหวัด ทำกิจกรรมในการเก็บตัวเพื่อเข้าประกวดจะมีการขายลิขสิทธิ์การจัดกิจกรรมเก็บตัว (Activity Host) นอกจากนี้ ปี 2559 บริษัทยังได้มีการจัดการประกวด Miss Grand International (MGI) นอกประเทศไทยเป็นครั้งแรก ที่เมืองลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งทำให้การประกวด Miss Grand International และบริษัทเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นในระดับนานาชาติ

          ปี 2560 เป็นปีแรก ที่ การประกวด Miss Grand International มีเจ้าภาพที่มีศักยภาพในการจัดการประกวด MGI ซึ่งได้ดำเนินการจัดขึ้นที่เมืองฟูก๊วก ประเทศเวียดนาม นับเป็นอีกก้าวที่สำคัญสำหรับธุรกิจการจัดประกวดของบริษัท

          ในปี 2561 บริษัทได้ต่อยอดการทำธุรกิจเข้าสู่ธุรกิจพาณิชย์ โดยเริ่มขายสินค้าอุปโภค ซึ่งผลิตภัณฑ์แรกของบริษัทคือ เซรั่มอันเดอร์อาร์ม (NangNgam Underarm Serum) ภายใต้เครื่องหมายการค้า NangNgam ซึ่งเป็นสินค้าที่บริษัทจัดหาผู้ผลิตที่มีคุณภาพ เพื่อผลิตสินค้าให้บริษัทเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้า ผ่านช่องทางการขายหลากหลายช่องทาง โดยนับเป็นก้าวแรกสู่ความเติบโตของบริษัท เนื่องจากในภายหลังธุรกิจพาณิชย์นับเป็นธุรกิจที่มีความสำคัญต่อบริษัท และหลังจากปี 2561 บริษัทได้มีการขยายธุรกิจพาณิชย์ให้มีการขายสินค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น จนสินค้าหลายรายการกลายเป็นสินค้าที่ติดตลาดและสามารถทำรายได้ให้กับบริษัทเป็นอย่างมาก อาทิ เฟสเซรั่ม (NangNgam FaceSerum Lifting & Whitening) น้ำพริกปลาสลิด กาแฟ น้ำปลาร้า เป็นต้น นอกจากการต่อยอดไปสู่ธุรกิจพาณิชย์แล้ว บริษัทยังมีการต่อยอดไปยังธุรกิจอื่น ได้แก่ ธุรกิจสื่อและบันเทิง (Media and X-Periences) ธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน (Talent) จากการอาศัยชื่อเสียง ความเป็นที่นิยมจากธุรกิจประกวดนางงามมิสแกรนด์

        ในปี 2563 บริษัทเล็งเห็นศักยภาพในธุรกิจพาณิชย์ที่บริษัทสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้มีการเพิ่มช่องทางการขายผ่าน TV Shopping ซึ่งลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านรายการโทรทัศน์ ทางโทรศัพท์ นอกจากนั้น บริษัทยังคงเพิ่มการโฆษณาประชาสัมพันธ์ และ ทำการขายสินค้าผ่าน Line Official Account (Line OA) ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี ในปี 2564 บริษัทได้ลงทุนทำระบบ Contact Center ของบริษัทเองซึ่งสามารถรองรับ การขายผ่าน TV Shopping, Telesales ตลอดจนช่องทาง Social Commerce อื่นๆ และยังเป็นช่องทางการให้บริการหลังการขายแก่ลูกค้าอีกด้วย และในปีดังกล่าว บริษัทฯ เริ่มพัฒนาเข้าสู่การขายในรูปแบบการขายออนไลน์ (Live Commerce) ผ่านช่องทาง Facebook และพัฒนาเข้าสู่การขายรูปแบบใหม่ๆในทุกช่องทาง มาจนถึงปัจจุบัน

         สำหรับทุนจดทะเบียนของบริษัท บริษัทมีทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 1 ล้านบาทในปี 2556 และเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 บริษัทได้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 50 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของกิจการ และเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2565 มีการเพิ่มทุนจาก 50 ล้านบาท เป็น 75 ล้านบาท ก่อนการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก

MGI1080
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า